-
1. หลักการและวัตถุประสงค์
บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด (“บริษัทฯ”) มีความมุ่งมั่นในการดำเนินการด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(Personal Data Protection Policy) เพื่อให้การปฏิบัติงานของบริษัทฯ เป็นไปตามกฎหมาย และมาตรฐานสากลในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ในการให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรการในการบริหารจัดการ
การละเมิดสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม
-
2. ขอบเขตการบังคับใช้
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ รวมถึงบุคคลใด ๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ภายใต้ข้อสัญญา ข้อกำหนด รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการต่าง
ๆ เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เอกสาร หรือบริการในรูปแบบอื่นที่ควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ (รวมเรียกว่า “บริการ”)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ดำเนินการโดยบริษัทฯ ให้หมายความรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลต่อไปนี้
- 1) ลูกค้าบุคคลธรรมดา
- 2) เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานหรือลูกจ้างของบริษัทฯ
- 3) คู่ค้าและผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
- 4) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ
- 5) ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ
- 6) ผู้เข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ ระบบ แอปพลิเคชัน อุปกรณ์ หรือช่องทางการสื่อสารอื่นซึ่งควบคุมดูแลโดยบริษัทฯ
- 7) บุคคลอื่นที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ผู้สมัครงาน ครอบครัวของเจ้าหน้าที่ ผู้ค้ำประกัน ผู้รับประโยชน์ในกรมธรรม์ประกันภัย เป็นต้น
ข้อ 1) ถึง 7) เรียกรวมกันว่า “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล”
สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ ให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยการเปิดเผยและการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
-
3. คำจำกัดความ
“นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (Personal Data Protection Policy) หมายความว่า นโยบาย ที่บริษัทฯ จัดทำเพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการประมวลผลข้อมูลของบริษัท และรายละเอียดต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดไว้
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” (Sensitive data)หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ
ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
“การประมวลผล” หมายความว่า การเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Subject) หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Controller) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ ให้รวมไปถึงการอ้างอิงใด ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความหมายหรือแสดงความหมายเหมือนกับหรือคล้ายกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” (Data Processor) หมายความว่า บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมไปถึงการอ้างอิงใด
ๆ ตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความหมายหรือแสดงความหมายเหมือนกับหรือคล้ายกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลที่ดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“คุกกี้” (Cookies) หมายความว่า ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็นลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการติดต่อสื่อสารซึ่งจะมีผลในขณะที่เข้าใช้งานระบบเว็บไซต์เท่านั้น
-
4. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลเฉพาะบุคคล ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัว หรือความสนใจส่วนบุคคล ข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวตามความจำเป็นซึ่งกฎหมายให้สิทธิไว้อย่างชัดแจ้ง โดยมีแหล่งที่มา
และหลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
- 4.1 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ อาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากช่องทาง ดังต่อไปนี้
- 4.1.1 เก็บรวบรวมโดยตรงจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากการกรอกข้อมูลส่วนบุคคลผ่านแบบฟอร์มการสมัครใช้บริการทั้งในรูปแบบกระดาษและรูปแบบออนไลน์ การตอบแบบสอบถาม (Survey) การสมัครงาน การลงนามในสัญญาหรือเอกสาร
หรือเมื่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดต่อสื่อสารกับบริษัทฯ ผ่านช่องทางที่กำหนด
- 4.1.2 เก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันตามสัญญาให้บริการ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทฯ ด้วยการใช้คุกกี้ (Cookies)
หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น
- 4.1.3 เก็บรวบรวมจากผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ (social media) หรือผู้ให้บริการบัญชีผู้ใช้งานภายนอกซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตนกับบริษัทฯ เพื่อเชื่อมต่อบัญชีผู้ใช้งานที่มีกับผู้ให้บริการภายนอกกับบริการของบริษัทฯ
ในกรณีนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยแก่บริษัทฯ จะเป็นไปตามการตั้งค่าของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้ให้บริการภายนอกรายนั้น
- 4.1.4 เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นที่ไม่ใช่จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งบริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลดังกล่าวโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ
เช่น การสืบค้นข้อมูลส่วนบุคคลผ่านระบบเว็บไซต์ การสอบถามจากบุคคลที่สาม หรือการเปิดเผยโดยบริษัทในเครือหรือบริษัทในกลุ่ม พันธมิตรทางธุรกิจ หรือบุคคลที่สามเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทฯ
จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบโดยไม่ชักช้า แต่ต้องไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันนับแต่วันที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งดังกล่าว รวมถึงจะดำเนินการขอความยินยอมในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่กรณีที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมหรือแจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ ตัวอย่างประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ อาจมีการเก็บรวมรวม เช่น
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดและตัวอย่าง |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล |
- คำนำหน้า ชื่อ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขหนังสือเดินทาง สัญชาติ ข้อมูลทะเบียนบ้าน ข้อมูลใบอนุญาตขับรถ ลายมือชื่อ หมายเลขประกันสังคม หรือเอกสารราชการอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนได้
|
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล |
- วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ สถานภาพการสมรส สถานภาพการเกณฑ์ทหาร รูปถ่าย ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม ความชื่นชอบ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
เป็นต้น
|
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ |
- เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ทางไปรษณีย์ ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (บัญชีผู้ใช้งานเว็บไซต์/แอปพลิเคชัน Line Facebook Apple Google หรือ Microsoft)
แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการศึกษา |
- รายละเอียดการจ้างงาน รวมถึงประวัติการทำงานและประวัติการศึกษา เช่น ประเภทการจ้างงาน อาชีพ ยศ ตำแหน่ง หน้าที่ ความเชี่ยวชาญ สถานภาพใบอนุญาตทำงาน ข้อมูลบุคคลอ้างอิง ข้อมูลบุคคลที่ติดต่อกรณีฉุกเฉิน
หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี ประวัติการดำรงตำแหน่ง ประวัติการทำงาน ข้อมูลเงินเดือน วันเริ่มงาน วันออกจากงาน ผลการประเมิน สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ พัสดุในครอบครองของผู้ปฏิบัติงาน ผลงาน
หมายเลขบัญชีธนาคาร สถาบันการศึกษา วุฒิการศึกษา ผลการศึกษา วันที่สำเร็จการศึกษา ข้อมูลการเข้าออกสถานที่ทำงาน ข้อมูลการเข้าออกของเวลาปฏิบัติงาน เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย |
- รายละเอียดเกี่ยวกับกรมธรรม์ประกันภัย เช่น ผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัย ผู้รับผลประโยชน์ หมายเลขกรมธรรม์ ประเภทกรมธรรม์ วงเงินคุ้มครอง ข้อมูลเกี่ยวกับการเคลม เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม |
- ข้อมูลความสัมพันธ์ทางสังคมของท่าน เช่น สถานภาพทางการเมือง การดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้อมูลการเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกิจการที่ทำกับบริษัทฯ
|
ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ |
- รายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการ เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้งาน รหัสผ่าน หมายเลข PIN รหัส OTP ข้อมูลการจราจรทางคอมพิวเตอร์ ข้อมูลระบุพิกัด ภาพถ่าย วีดีโอ บันทึกเสียง ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งาน
ประวัติการสืบค้น คุกกี้ (cookies) หรือเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หมายเลขอุปกรณ์ (Device ID) ประเภทอุปกรณ์ รายละเอียดการเชื่อมต่อ ข้อมูล Browser ภาษาที่ใช้งาน ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน เป็นต้น
|
ข้อมูลทางการเงินและการทำธุรกรรม |
- ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน สถานภาพทางการเงิน หรือประวัติทางการเงิน เช่น เลขที่บัญชีเงินฝาก ประวัติการทำธุรกรรม ประวัติการชำระสินเชื่อ แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ ใบแจ้งรายได้ ข้อมูลการชำระค่าสาธารณูปโภค
ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น
|
ข้อมูลเกี่ยวกับยานยนต์ |
- ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถและการจดทะเบียน เช่น เลขทะเบียนรถยนต์ หมายเลขเครื่องยนต์ ข้อมูลการจดทะเบียนรถ ข้อมูลระบบจีพีเอส เป็นต้น
|
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว |
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ข้อมูลศาสนา ข้อมูลความพิการ ข้อมูลความเห็นทางการเมือง ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ (อาทิ ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลภาพจำลองลายนิ้วมือ)
ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นต้น
|
ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ |
- เช่น ข้อมูลวิเคราะห์สถิติทางการตลาดของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลภาพวิดีทัศน์กล้องวงจรปิด (CCTV) ข้อมูลบทสนทนาและการสื่อสารทางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
|
- 4.2 หลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
- 4.2.1 ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯพิจารณากำหนดฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและตามบริบทของการให้บริการและการปฏิบัติตามสัญญา ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎหมาย โดยฐานกฎหมายหลักที่บริษัทฯ
ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมี ดังนี้
ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูล |
รายละเอียด |
เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
- เพื่อให้บริษัท ฯ สามารถเข้าทำสัญญากับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าว อาทิ สัญญาเช่าหรือให้เช่าซื้อรถยนต์ สัญญากู้ยืม สัญญาให้บริการ สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาแต่งตั้งตัวแทนนายหน้า
สัญญาจ้างทำของ ตลอดจนเพื่อความจำเป็นในการให้บริการของบริษัทฯ อาทิ การเข้าทำสัญญาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย การเข้าทำสัญญากับผู้ขายบนแพลตฟอร์มตลาดกลาง
|
เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย |
- เพื่อให้บริษัทฯ สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ อาทิ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายประกันภัย ตลอดจนการดำเนินการตามคำสั่งศาล
|
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบธรรม |
- เพื่อการดำเนินการใด ๆ ซึ่งเป็นประโยชน์อันชอบธรรมของบริษัทฯ และของบุคคลอื่นซึ่งประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถคาดหมายได้
อาทิ การยืนยันและตรวจสอบตัวตน การอำนวยความสะดวกในการเข้าใช้บริการ การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่อยู่ในประเภทเดียวกันกับที่ลูกค้ามีอยู่ การพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ การป้องกันการฉ้อโกง
การรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ การพัฒนาและปรับปรุงขั้นตอนการปฏิบัติงานและระบบงานภายใน การกำกับภายในของบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม รวมถึงเพื่อประโยชน์ในการบริหารความเสี่ยง การกำกับและตรวจสอบ
และการบริหารจัดการภายในองค์กร
|
เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล |
- เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ การติดต่อบุคคลอ้างอิงกรณีที่เจ้าของข้อมูลหมดสติ การเฝ้าระวังและป้องกันโรคระบาด
|
ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
- เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอม โดยได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะขอความยินยอม
อาทิ การนำเสนอและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และบริการโดยบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ การโฆษณาแบบเฉพาะเจาะจง (targeted advertising) การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวซึ่งไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย
|
ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจพิจารณาใช้ฐานกฎหมายอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ข้างต้นสำหรับการให้บริการหรือการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ก็ได้ ทั้งนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ตามกฎหมาย
- 4.2.2 บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจมีวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่แตกต่างกันไปตามแต่กรณี เช่น
วัตถุประสงค์ |
รายละเอียด |
เพื่อดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญา และเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความจำเป็นในการเข้าใช้บริการหรือเข้าทำสัญญากับบริษัทฯ อาทิ
- • การเข้าทำสัญญาเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์
- • การเข้าใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่อยู่ภายใต้เครื่องหมายทางการค้า/เครื่องหมาย บริการ KINTO
- • การเข้าใช้บริการ Toyota Wallet
- • การเข้าใช้บริการ e-commerce อาทิ Gurumalist ShopSabuy
- • การเข้าใช้ผลิตภัณฑ์ประกันภัยกับบริษัทฯ ในฐานะนายหน้าประกันภัย
|
เพื่อยืนยันตัวตนหรือตรวจสอบบุคคล |
- การยืนยันตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนจะให้บริการหรือเข้าทำสัญญาด้วยวิธีที่บริษัทฯ กำหนด หรือตรวจสอบตัวตนในการทำธุรกรรม รวมทั้งพิสูจน์ลายมือชื่อว่าเป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจริง
|
เพื่อตอบคำถามและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้า |
- การให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ อาทิ การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปรับปรุงข้อมูลของลูกค้า การชำระค่าบริการ ประวัติการชำระหนี้ หรือการส่งคำร้องขอใช้สิทธิหรือข้อร้องเรียนต่าง
ๆ
|
เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ หรือการประชาสัมพันธ์ทางการตลาด |
- การเสนอขายหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการ ข้อเสนอพิเศษ สิทธิประโยชน์ และโปรโมชั่นโดยบริษัทฯ ให้แก่ลูกค้า รวมถึงการเสนอขายหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยบริษัทในกลุ่ม บริษัทในเครือ
ตลอดจนพันธมิตรทางธุรกิจผ่านช่องทางการติดต่อที่ได้รับจากลูกค้า
|
เพื่อพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ |
- การวิจัย วิเคราะห์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ รวมถึงบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม ให้ดียิ่งขึ้นและเหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า
|
เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) |
- การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ซึ่งอยู่ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย อาทิ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ บริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม การบริหารความเสี่ยงภายในองค์กร
การป้องกันการฉ้อโกง
|
เพื่อตรวจสอบและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ |
- การตรวจสอบและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศขององค์กรให้เป็นไปอย่างสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบ การตรวจสอบระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
การทดสอบเจาะระบบ (penetration test)
|
เพื่อตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย |
- การตรวจสอบและการดำเนินการใดๆ เพื่อป้องกันการกระทำความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการละเมิดความปลอดภัยที่ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯ และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
|
เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ |
- การปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้กับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อาทิ การจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในการหักภาษี ณ ที่จ่าย การตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
การปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าประกันภัย การดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต กฎหมายว่าด้วยการทวงถามหนี้ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้บริโภค
|
เพื่อให้ข้อมูลแก่หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนดหรือตามการร้องขอโดยหน่วยงานของรัฐ |
- การนำส่งและการชี้แจงข้อมูลแก่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือองค์กรของรัฐที่อาจเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
|
เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภายในองค์กร |
- การบริหารจัดการภายในองค์กรในด้านต่าง ๆ อาทิ การกำกับดูแลให้เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลบริษัทฯ และจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม การบริหารความเสี่ยงขององค์กร
การป้องกันการทุจริตภายในองค์กรและการต่อต้านการติดสินบน
|
เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล |
- การบริหารและการจัดการด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ รวมทั้งบริษัทในเครือและบริษัทในกลุ่ม อาทิ การรับสมัครบุคลากร การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของบุคลากร การจ่ายเงินเดือนและค่าตอบแทนแก่ลูกจ้างและผู้ฝึกหัดงาน
การมอบสวัสดิการ การประเมินผลงานหรือศักยภาพของลูกจ้าง การตรวจสอบการปฏิบัติงานของลูกจ้าง การจัดให้มีการประกันภัยแก่ลูกจ้าง การป้องกันโรคติดต่อและโรคระบาด การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัยอาชีวอนามัย
และสภาพแวดล้อมในการทำงาน การดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยห้างหุ้นส่วนบริษัท
|
เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำธุรกรรมของบริษัทฯ |
- การทำธุรกรรมของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ อาทิ การซื้อขายทรัพย์สิน การจัดซื้อจัดจ้าง การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อการดำเนินธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์
การออกตราสารหนี้ตามกฎหมาย การโอนกิจการ
|
เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิทางกฎหมายและการดำเนินคดี |
- การระงับข้อพิพาทและการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การฟ้องร้องคดี ตลอดจนการดำเนินการตามหมายศาล คำสั่งศาล หรือคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ
|
- 4.2.3 บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้ก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทฯ สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
- 4.2.4 ในกรณีเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญาหรือมีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อเข้าทำสัญญา หรือต้องให้ข้อมูลด้วยประการอื่นใด หากเจ้าของข้อมูลไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น
อาจส่งผลให้ธุรกรรมหรือกิจกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลถูกระงับ หรือหยุดลงชั่วคราว จนกว่าบริษัทฯจะได้รับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ ไม่สามารถประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นได้
หรือกฎหมายกำหนดห้ามมิให้มีการดำเนินธุรกรรมหรือกิจกรรมนั้นอีกต่อไป
- 4.2.5 สำหรับการประมวลผลภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมไว้ บริษัทฯ จะไม่ดำเนินการประมวลผลใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องขอความยินยอมนั้น ทั้งนี้ การไม่ให้ความยินยอมของเจ้าข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
ย่อมไม่กระทบต่อการเข้าทำสัญญาหรือการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและบริษัทฯ หรือส่งผลกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีจำเป็นที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอมเพื่อการประมวลผลเท่านั้น
นอกจากนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถขอถอนความยินยอมได้ทุกเมื่อและทำได้โดยง่ายเหมือนขอความยินยอม อย่างไรก็ดี การถอนความยินยอมดังกล่าวไม่กระทบต่อความสมบูรณ์ของการประมวลผลที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านั้น
- 4.2.6 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หากไม่เข้าข้อยกเว้นตามกฎหมาย บริษัทฯ จะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหวดังกล่าว ทั้งนี้
ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนดโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย การที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลปฏิเสธไม่ให้ความยินยอม อาจส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงบริการบางอย่างที่ไม่สามารถใช้ฐานทางกฎหมายอื่นได้นอกจากการขอความยินยอมโดยชัดแจ้งเพื่อประมวลผลข้อมูลนั้น
- 4.2.7 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ และคนเสมือนไร้ความสามารถ
• กรณีที่บริษัทฯ ทราบว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมในการเก็บรวบรวม เป็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ บริษัทฯ จะไม่ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
หรือผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี ทั้งนี้ เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
• กรณีที่บริษัทฯ ไม่ทราบมาก่อนว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ และมาพบในภายหลังว่าบริษัทฯ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวโดยปราศจากความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้เยาว์
หรือผู้อนุบาล หรือ ผู้พิทักษ์ตามแต่กรณี บริษัทฯ จะดำเนินการลบทำลายข้อมูลส่วนบุคคลนั้นโดยเร็วหากไม่มีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายอื่นใดนอกเหนือจากความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว
-
5. การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
- 5.1 หลักการพื้นฐาน
การใช้และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์และหลักการดำเนินการที่สอดคล้องตามข้อ 4.2 หลักการในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
เว้นแต่จะได้กระทำภายในกรอบที่กฎหมายให้อำนาจไว้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก องค์กร หรือหน่วยงานของรัฐ ดังต่อไปนี้
- 1)บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่มบริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่ม
- 2)คู่สัญญา ผู้ให้บริการ และพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทฯ เช่น บริษัทในกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคาร บริษัทในกลุ่มธุรกิจประกันภัย บริษัทในกลุ่มธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
บริษัทในกลุ่มธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) บริษัทในกลุ่มบริการให้เช่ารถยนต์
- 3)ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์
- 4)หน่วยงานซึ่งดำเนินงานด้านข้อมูลเครดิต
- 5)ธนาคาร
- 6)หน่วยงานของรัฐซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย สำนักงานประกันสังคม กรมสรรพากร กรมบังคับคดี ศาล
- 7)หน่วยงานหรือองค์กรอื่นใดที่เกี่ยวข้องหรืออาจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ฯ อาทิ ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อบริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม พันธมิตรทางธุรกิจ รวมทั้งบุคคลที่สามที่บริษัทฯ อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล กรุณาคลิกที่นี่
- 5.2 คุกกี้ (Cookies)
บริษัทฯ เก็บรวบรวมและใช้คุกกี้รวมถึงเทคโนโลยีอื่นในลักษณะเดียวกันในเว็บไซต์ที่อยู่ภายใต้ความดูแลของบริษัทฯ หรือบนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ เพื่อการดำเนินการด้านความปลอดภัยในการให้บริการของบริษัทฯ
และให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานบริการของบริษัทฯ โดยข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทฯ ให้ตรงกับความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถตั้งค่าหรือลบการใช้งานคุกกี้ได้ด้วยตนเองจากการตั้งค่าในเว็บเบราว์เซอร์
(Web Browser) ของท่าน ทั้งนี้ สามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้
-
6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาดังต่อไปนี้
- 6.1 ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ เช่น พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
พ.ศ. 2550 ประมวลรัษฎากร
- 6.2 ในกรณีที่กฎหมายไม่ได้กำหนดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้โดยเฉพาะ บริษัทฯ จะกำหนดระยะเวลาในการจัดเก็บตามความจำเป็นที่เหมาะสมในการปฏิบัติงานของบริษัทฯ
เมื่อพ้นระยะเวลาการเก็บรักษาดังกล่าวหรือไม่มีความจำเป็นที่จะประมวลผลอีกต่อไป
บริษัทฯ จะดำเนินการลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
-
7. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทฯ อาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือ บริษัทในกลุ่ม หรือผู้ให้บริการอื่นใดที่อยู่นอกประเทศไทย เช่น ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ (Cloud Computing) ที่มีแพลตฟอร์มหรือเครื่องแม่ข่าย
(server) อยู่ต่างประเทศ (อาทิ สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น) ผู้ประมวลผลข้อมูล ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม (Platform as a Service: PaaS) เป็นต้น เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดในนโยบายฉบับนี้ และบริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางดังกล่าวมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
และสามารถบังคับใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ รวมทั้งบริษัท ฯ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเช่นนั้น
อย่างไรก็ดี ในกรณีที่ประเทศปลายทางไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศในทุกกรณี บริษัท ฯ จะดำเนินการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และดำเนินการดังต่อไปนี้
- 1. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ ต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมายที่ได้แจ้งต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนหรือในขณะเก็บรวบรวม
- 2. เก็บรวบรวมข้อมูลเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งต้องไม่เก็บรักษาไว้นานเกินกว่าความจำเป็นตามวัตถุประสงค์หรือตามกฎหมาย
- 3. มีมาตรการที่เหมาะสมซึ่งทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลมีความถูกต้อง ครบถ้วน และปัจจุบัน
- 4. สิทธิของเจ้าของข้อมูลตามกฎหมายต้องไม่ถูกจำกัด และมีช่องทางให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลใช้สิทธิ ตลอดจนมีกระบวนการบริหารจัดการเรื่องดังกล่าวด้วย
- 5. มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ
- 6. บันทึกและจัดเก็บเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการส่งหรือโอนข้อมูลไปยังต่างประเทศ
- 7. ดำเนินการภายใต้กรอบของกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
-
8. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
นโยบายนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมั่นใจว่าสามารถการใช้สิทธิดังต่อไปนี้ที่มีอยู่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้
- 1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัทฯ
- 2) สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทฯ
เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
- 3) สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
- 4) สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
- 5) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
- 6) สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น
หรือ ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้
- 7) สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ อาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทฯ กำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นได้โดยส่งคำร้องมายังบริษัทฯ ผ่านช่องทางติดต่อ โดยบริษัทฯ จะดำเนินการจัดการกับคำร้องของท่านไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันนับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับคำร้อง ในกรณีที่บริษัทฯ ปฏิเสธคำร้องขอข้างต้น
บริษัทฯ จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายในกรณีที่บริษัทฯ ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างของบริษัท ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
-
9. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ กำหนดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ตามกรอบการรักษาความลับของระบบและข้อมูล (Confidentiality) ความถูกต้องเชื่อถือได้ของระบบและข้อมูล (Integrity) และความพร้อมใช้งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
(Availability) รวมถึงความปลอดภัยของระบบและข้อมูล (Safety) เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การใช้ การเปลี่ยนแปลง การแก้ไข หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีอำนาจหรือโดยขัดต่อกฎหมาย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย วิธีปฏิบัติ
และระบบงานด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศของบริษัทฯ ที่ได้พิจารณาถึงประเด็นดังต่อไปนี้
- 1) การออกแบบ การพัฒนา (Privacy by design) การทดสอบ และการบำรุงรักษาระบบการสนับสนุนการประกอบธุรกิจ ระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ และ ระบบงานอื่น ๆ ให้มีความยืดหยุ่นและมั่นคงปลอดภัยต่อการใช้งาน
สามารถป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการบุกรุกหรือภัยคุกคามได้
- 2) การกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกระดับตามหลักการควบคุม กำกับ และตรวจสอบ (3 lines of defense) เพื่อให้เอื้อต่อการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
- 3) การควบคุมการจัดเก็บและการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยพิจารณาการบริหารจัดการสิทธิของผู้ใช้งานตามระดับความเสี่ยงและความจำเป็นในการใช้งานให้อยู่ในลักษณะเป็นปัจจุบัน รวมทั้ง การแบ่งแยกหน่วยงานตามหลัก
Chinese wall เพื่อให้การเข้าถึงข้อมูลตามความจำเป็น
- 4) การทดสอบ การตรวจจับ และ การแก้ไขปัญหาการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความผิดปกติ หรือ การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้อย่างไม่เหมาะสม รวมถึง การรายงานไปยังผู้บริหารกรณีที่มีการตรวจจับการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ผิดปกติหรือการนำไปใช้อย่างไม่เหมาะสม
- 5) การกำหนด การเก็บรักษา การทำลาย และ การเข้ารหัสข้อมูลตามระดับของชั้นความลับ เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
- 6) การควบคุมดูแลและบริหารจัดการผู้ให้บริการภายนอก ตัวแทน ผู้ให้บริการสนับสนุนในการประกอบธุรกิจ รวมถึง พันธมิตรทางธุรกิจ ในการเข้าถึง ใช้ แก้ไข เปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัย
- 7) การสร้างและส่งเสริมความตระหนักรู้แก่พนักงานทุกระดับให้เข้าใจถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ว่าจ้างหน่วยงานหรือบุคคลภายนอกให้ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะกำหนดให้หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกดังกล่าว เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ
และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงป้องกันมิให้นำข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย เพื่อการอื่นใดที่ไม่เป็นไปตามขอบเขตการว่าจ้าง หรือขัดต่อกฎหมาย
-
10. ข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรป (EU/EEA)
กรณีที่มีการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรป มายังบริษัทฯ เพื่อความจำเป็นในการให้บริการนั้น บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลตามกรณีดังกล่าวเป็นไปอย่างสอดคล้องกับข้อกำหนดทั่วไปว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งสหภาพยุโรป (General Data Protection Regulation: GDPR) อาทิ การโอนข้อมูลภายใต้ ข้อสัญญามาตรฐาน (Standard Contractual Clauses) หรือนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเครือกิจการ (Binding Corporate Rules: BCRs) นอกจากนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการตามมาตรการที่เหมาะสมเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและการเยียวยาทางกฎหมายภายใต้ข้อกำหนดที่บังคับใช้
ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรปประสงค์จะยื่นคำร้องหรือขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตลอดจนประสงค์จะร้องเรียนเมื่อพบประเด็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมาย สามารถติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ
หรือตัวแทนที่อยู่ในสหภาพยุโรปตามรายละเอียดที่กำหนดใน
หัวข้อ 15 ช่องทางการติดต่อ หรืออาจดำเนินการร้องเรียนไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในสหภาพยุโรป/เขตเศรษฐกิจยุโรปก็ได้
-
11. การเชื่อมต่อเว็บไซต์หรือบริการภายนอก
บริการของบริษัทฯ อาจมีการเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม ซึ่งเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าวอาจมีการประกาศใช้นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีเนื้อหาสาระแตกต่างจากนโยบายของบริษัทฯ ดังนั้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลควรศึกษานโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว
ก่อนการเข้าใช้งาน ทั้งนี้ บริษัทฯ ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีอำนาจควบคุมถึงมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์หรือบริการดังกล่าว และไม่สามารถรับผิดชอบต่อเนื้อหา นโยบาย ความเสียหาย หรือการกระทำอันเกิดจากเว็บไซต์หรือบริการของบุคคลที่สาม
-
12. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง
บริษัทฯ อาจมีการมอบหมายหรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของบริษัทฯ ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่าง ๆ อาทิ การเป็นผู้ดูแล (Hosting)
รับงานบริการช่วง (Outsourcing) ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Computing Service Provider) ผู้ให้บริการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ หรืองานสนับสนุนการให้บริการหรือการบริหารจัดการภายในของบริษัทฯ (เช่น การดำเนินการทางทะเบียนเกี่ยวกับรถยนต์
การติดตามทวงถามหนี้ การให้บริการด้านข้อมูลแก่ลูกค้า การจัดทำ Slip เงินเดือน การจัดทำแบบสำรวจความคิดเห็น การวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้า เป็นต้น)
การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนบริษัทฯ ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯ จะจัดให้มีข้อตกลงซึ่งระบุสิทธิและหน้าที่ระหว่างบริษัทฯ และบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมาย โดยบุคคลดังกล่าวในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลงและตามคำสั่งของบริษัทฯ
เท่านั้นโดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้
ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทนหรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น บริษัทฯ จะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง
ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทฯ กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
-
13. การทบทวนและปรับปรุงนโยบาย
บริษัทฯ จะจัดให้มีการทบทวนและปรับปรุงนโยบายฉบับนี้อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ
-
14. ช่องทางการติดต่อ
รายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
- ชื่อ: บริษัท โตโยต้า อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์ จำกัด (Toyota Insurance Broker Co., Ltd.)
- สถานที่ติดต่อ: 123 อาคารซันทาวเวอร์ บี ชั้น 26 ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
- ช่องทางการติดต่อ: 02-660-5999, https://www.toyotainsurancebroker.com,
ช่องทางติดต่อ หรือ รับข่าวสารอื่น ๆ : อาทิ LINE@ และ Facebook ของบริษัทฯ
รายละเอียดเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer)
- ชื่อ: คณะเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
- สถานที่ติดต่อ: 990 อาคารอับดุลราฮิม ชั้น 18-19 ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500
- ช่องทางการติดต่อ: 1486
อีเมล: dataprotection@tlt.co.th